เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

เกาะพะงัน อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศเหนือ ประมาณ 20 กม. และอยู่ห่างตัวจังหวัดประมาณ 100 กม. เกาะพะงันมีเนื้อที่ประมาณ 170 ตรกม. เป็นหนึ่งในจำนวน 48 เกาะที่ตั้งอยู่ในช่องอ่างทอง
ลักษณะภูมิประเทศของเกาะพะงัน มีภูเขาอยู่ตรงกลางเกาะ ทอดตัวจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีที่ราบบริเวณทางทิศตะวันตกของเกาะ ส่วนทางทิศตะวันออกเป็นเทือกเขาจดทะเล บางแห่งก็มีอ่าวเล็ก อ่าวน้อย เรือเข้าจอดได้เป็นบางฤดู ช่วงมรสุมตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม จะมีลมตะวันออกพัดผ่าน ซึ่งไม่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าว


เกาะพะงัน เป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นเวลาช้านาน สันนิษฐานว่าพวกแรกที่มาอยู่บนเกาะพะงันน่าจะเป็นแขกจากมลาย ูที่อยู่แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือไม่ก็เป็นพวกแขก ที่มาจากปัตตานีมาอาศัยทำการประมงเป็นหลัก โดยสังเกตจากชื่อของเกาะ และสถานที่บางแห่งบนเกาะเช่นคำว่า เกาะพะงัน อดีตนายอำเภอเกาะสมุยผู้หนึ่งว่าเดิมชื่อ เกาะราฮัม ซึ่งแปลว่า ดำตะคุ่ม หรือเกาะบางเกาะเช่นเกาะวัวตาหลับ เกาะเหล้าหยู ก็มาจากภาษามลายู

เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี

เกาะสมุย เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่บริเวณอ่าวไทย ห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก 84 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 247 ตารางกิโลเมตร ถนนรอบเกาะ (ถนนสายทวีราษฎร์ภักดี) ยาว 52 กิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 ของเกาะเป็นที่ราบ ล้อมรอบภูเขา ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงคลื่นลมสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด เกาะสมุย เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยทรายขาวมีชื่อหลายแห่ง อาทิ หาดเฉวง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม หาดละไม นักท่องเที่ยวที่ต้องการหาดทราย ทะเล สายลม และแสงแดด ชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล ต้นมะพร้าวริมชายหาดและน้ำทะเลใสสวย ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องหวนกลับไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า อาหารทะเลสด ๆ ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ชวนให้นึกถึง


นอกจากทะเลสวยน้ำใส เกาะสมุยยังมีกิจกรรมที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกบริการนักท่องเที่ยว นั่นก็คือ สปา….หรือการดูแลรักษาสุขภาพด้วยการใช้น้ำบำบัด เช่น การอาบแช่น้ำ อาจจะเป็นน้ำแร่ หรือน้ำร้อน การบำบัดโดยการนวด หรือ การใช้พฤกษาบำบัด โดยใช้กลิ่นพืชพรรณธรรมชาติช่วยในการคลายเครียด ซึ่งมีสถานที่บริการอยู่หลายแห่ง ทั้งในโรงแรมและศูนย์สปาโดยเฉพาะ แต่ละสถานที่มีบรรยากาศ ความสะดวกสบาย และการบริการที่ดีเยี่ยม ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง และสำหรับนักกอล์ฟที่นี่ก็มีสนามกอล์ฟให้ได้ออกกำลังกายอีกด้วย

หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่

หมู่เกาะพีพี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ 242,437 ไร่ เป็นพื้นน้ำประมาณ 200,849 ไร่ มีป่าไม้ 3 ประเภท คือ ป่าดงดิบชื้น พบเห็นได้บริเวณเขาสูงชันบริเวณเขาหางนาค เขาอ่าวนาง ป่าชายเลน จะพบบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ คลองย่านสะบ้า และด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณสุสานหอย 40 ล้านปี และป่าพรุ ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างสมบูรณ์ มีสัตว์ต่าง ๆ ที่พบในอุทยานฯ ได้แก่ นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง หมูป่า ลิง และค่าง สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวคือเดือนพฤษภาคม - เดือนเมษายน

เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

เกาะเต่า มีพื้นที่อยู่ในฝั่งของทะเลอ่าวไทย และอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะของเกาะเต่า จะมีลักษณะที่โค้งเว้า เหมือนกับเมล็ดถั่ว ซึ่งเกาะเต่า จะตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี ระยะทางจากเกาะพงันถึงเกาะเต่า ประมาณสี่สิบห้ากิโลเมตร นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงกับเกาะเต่ายังมีเกาะนางยวนซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ด้านตะวันตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า มีสันทรายเชื่อมต่อกับเกาะเต่าในลักษณะเหมือนทะเลแหวก เป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังอีกแห่งหนึ่ง

เกาะกูด จ.ตราด

เกาะกูด อยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศไทย จังหวัดตราด ท่านที่ได้เคยไปเยือนเกาะช้าง ท่านต้องไม่พลาดที่จะไป เกาะกูด เพราะอยู่ห่างกันไม่มากนัก และยังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ เกาะกูดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหาดทรายและน้ำทะเลใสสีมรกต จนได้รับการขนานนามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่ไม่ต้องการความวุ่นวาย นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพักผ่อนในช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือน พฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว ที่สุดของท้องทะเลตราดต้องเกาะกูด พร้อมด้วยหาดทรายขาว ให้ท่านได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างแท้จริง


ในแต่ละหาดจะมีที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว แต่นักท่องเที่ยวหลายคนมักคิดว่าการเดินทางไปเกาะกูดก็เหมือนเกาะช้าง ไปเกาะกูดส่วนไหนก็ได้ เดี่ยวค่อยเลือกหารีสอร์ทที่พัก แต่หารู้ไม่ว่า แต่ละรีสอร์ทตั้งอยู่คนละหาดกันไม่สามารถเดินถึงกันได้ การเดินทางส่วน

เกาะปันหยี จ.พังงา

เกาะปันหยี เป็นเกาะเล็ก ๆ มีที่ราบประมาณ 1 ไร่ หรือประมาณ 108 ตารางกิโลเมตร มีบ้านเรือน 300 หลังคา มีประชากรประมาณ 4,000 คน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่ว่าการอำเภอเมืองพังงา ประมาณ 7 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเขาหินปูนสูงชะลูด แวดล้อมด้วยเกาะน้อยใหญ่


ย้อนหลังกลับไปนับร้อยปี บรรพบุรุษของคนปันหยี ซึ่งเป็นครอบครัวชาวชวา จำนวน 3 ครอบครัว อพยพมาจากอินโดนีเซียโดยเรือใบ 3 ลำ เพื่อค้นหาแหล่งทำกินที่ดีกว่าเดิม พวกเขาตกลงกันว่าหากใครพบที่ทำกินก่อน ให้สื่อสัญญาณด้วยการปักธงที่ยอดเขา และในที่สุดครอบครัว "โต๊ะบาบู" ก็พบเกาะหนึ่งก่อนใคร จึงขึ้นไปปักธงไว้ที่ยอดเขา และตั้งชื่อเกาะนั้นว่า "ปันหยี" ที่แปลว่า "ธง"

พื้นที่ส่วนใหญ่ของ เกาะปันหยี ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวพังงา และบริเวณป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา มีหมู่บ้านจำนวน 4 หมู่บ้าน คือ บ้านท่าด่าน ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา, เกาะปันหยี ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา, เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่บนเกาะและป่าชายเลนอ่าวพังงา และเกาะหมากน้อย ตั้งอยู่บนเกาะในอ่าวพังงา ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และประมาณร้อยละ 2 นับถือศาสนาอื่น ๆ และส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านประมง เป็นหลัก นอกจาก นี้ยังมีการประกอบอาชีพ เช่น ทำสวนยางพารา สวนมะพร้าว อาชีพรับราชการ การค้าขายและรับจ้าง


และด้วยพื้นที่เป็นแผ่นดินอยู่น้อยนิดนี้ ชาว เกาะปันหยี ใช้เป็นที่ตั้งของศูนย์กลางหมู่บ้านและศาสนา ส่วนบ้านเรือน ร้านค้า และโรงเรียนตั้งอยู่ในน้ำ เดิมทีมีทางเดินเชื่อมถึงกันด้วยสะพานไม้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสะพานปูนในปัจจุบัน เวลาน้ำขึ้น "หมู่บ้านปันหยี" จึงแลดูเหมือนหมู่บ้านลอยน้ำ แต่พอน้ำลงจะเห็นว่าบ้านนับร้อยหลังนั้น ตั้งอยู่บนเสาที่ปักในเลนมาตั้งแต่อดีต

ภูเขาฟูจิ ญี่ปุ่น

ภูเขาฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และอาจกล่าวได้ว่าเป็นภูเขาที่สวยที่สุดในโลก เพราะมีความสูงถึง 3,776 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยะมะนะชิและชิซุโอะกะ และสามารถมองเห็นได้จากโตเกียวและโยโกฮาม่า ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง


รอบ ๆ ภูเขาฟูจิ เต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม และเป็นอุทยานแห่งชาติฟูจิฮะโกะเนะอิซุ มีทะเลสาบ 5 แห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โมโตสุโกะ โชจินโกะ ไซโก้ และมีออนเซนหลายแห่ง ได้แก่ ยะมะนะกะโกะ คะวะงุจิโกะ โอชิโนะโกะ ฯลฯ


ภูเขาฟูจิ มีอิทธิพลต่อศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีชื่อภูเขาปรากฎอยู่ในทังขะ หรือบทกลอนญี่ปุ่นหรือ อุคิโยเอะ หรือภาพพิมพ์ญี่ปุ่น และทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท ชื่อสินค้า ชื่อนักซูโม่ และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนตั้งชื่อว่า ฟูจิ เรียกว่า ภูเขาฟูจิ นี้เป็นหัวใจของญี่ปุ่นก็ว่าได้

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้มีอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี ยอดเขาสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 20-924 เมตร จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ ยอดเขามาบหว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 924 เมตร และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย อยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสายทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ


ส่วน น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลอง มีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลาแก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะ "ปลาพลวงหิน"



คำว่า "พลิ้ว" กล่าวกันว่าเป็นภาษาชอง ซึ่งเป็นเจ้าของถิ่นเดิม แปลว่า ทราย หรือ หาดทราย แต่เข้าใจกันว่า น้ำตกพลิ้ว คงจะได้ชื่อมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งชอบขึ้นในดินปนทราย เป็นไม้เถามีดอกเป็นผลเล็กขนาดลูกเกด สีเหลืองอมแดง ขึ้นทั่วไปในแถบนี้

สวนหินผางาม จ.เลย

“สวนหินผางาม”ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านผางาม หมู่10 ต.ปวนพุ อ.หนองหิน ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 70 กม. อยู่ระหว่าง อ.วังสะพุงกับภูกระดึง เนื้อหาและจุดเด่น ของคุนหมิงเมืองไทย อยู่ที่ภูเขาหินปูนทอดตัวเป็นแนวยาวท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9,000 ไร่ ประกอบไปด้วยเขาหินปูนขนาดใหญ่ 3 ลูกด้วยกันคือ เขาคุนหมิง ผาบ่อง หินเต่า และยังมีภูเขาขนาดเล็กอีกไม่ต่ำกว่า 500 ลูก มีแนวเทือกเขาเดียวที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไป เจาะลึกด้านในได้ ภายใต้เงื่อนไข ต้องใช้ไกด์ท้องถิ่นนำทาง นั้นเพราะเส้นทางเดินสลับซับซ้อนไม่ต่างจากเขาวงกต ไกด์ท้องถิ่นจะเป็นเหล่าเด็กนักเรียนในพื้นที่ สำหรับการเที่ยวชม กับเส้นทาง 1,300 เมตร จะได้ชมความมหัศจรรย์ของสวนหินงามประมาณ 21 จุด ด้วยค่าบริการนำเที่ยว 100 บาทต่อกรุ๊ป (ไม่เกิน 10 ท่าน)

เขาช้างเผือ จ.กาญจนบุรี

เขาช้างเผือก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยมีความสูงถึง 1,249 จากระดับน้ำทะเล การเดินทางขึ้นสู่ยอด เขาช้างเผือก นั้น ใช้การเดินเท้าในระยะทางประมาณ 8-9 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนั้นจะเป็นเส้นทางที่ลัดเลาะยอดเขาต่าง ๆ ต้องข้ามยอดเขากว่า 3-4 ยอดเขาจึงจะถึงจุดตั้งเต๊นท์ที่เรียกว่า "กิ่วลม"


ส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมนอนพักที่กิ่วลมก่อน 1 คืน จากนั้นจึงเดินเท้าขึ้นสู่ยอด เขาช้างเผือก ในวันรุ่งขึ้น เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ระยะทางจากกิ่วลมสู่ยอดเขานั้นไม่ไกลมากเท่าไร แต่เป็นทางเดินลาดชัน ที่ต้องปีนป่าย และทรงตัวไปตามทางเดินเล็ก ๆ และลื่นพอสมควร จุดวัดใจในการขึ้นสู่ยอดเขานั่นก็คือ "สันคมมีด" ที่เป็นสันหินแคบ กว้างไม่เกิน 1 เมตร สองข้างทางเป็นเหวลาดลงไป ใครจะขึ้นถึงยอดหรือไม่ ก็วัดใจกันตรงนี้นี่แหล่ะ

ถ้าหากผ่านสันคมมีดมาได้ รางวัลที่รออยู่บนยอดเขาช้างเผือกนั้น สามารถทำให้หายเหนื่อยได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นวิวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาแบบ 360 องศา ที่สามารถมองเห็นเขื่อนวชิราลงกรณ์ด้านล่าง และในวันที่ปราศจากเมฆหมอก ทัศนวิสัยดีเยี่ยมจะสามารถมองข้ามไปทางฝั่งประเทศพม่า และมองเห็นทะเลอันดามันได้ด้วย...ว้าว!

อ่าวมะนาว จ.ประจวบคีรีขันธ์

อ่าวมะนาว จ.ประจวบคีรีขันธ์เป็นชายหาดที่สะอาดและ สวยงามอยู่ในพื้นที่ของกองทัพอากาศ ชายหาดมีลักษณะโค้งเป็นวงกลมเหมือนลูกมะนาว จึงเป็นที่มาของคำว่า อ่าวมะนาว อ่าวมะนาวมีภูเขาสองลูกโอบล้อมคือ เขาล้อมหมวก และ เขาคลองวาฬ สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากชายหาด


ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น อ่าวมะนาวเคยเป็นยุทธภูมิระหว่างกองทัพไทยและกองทัพญี่ปุ่น ในกองบิน 53 จะเห็น อนุสาวรีย์วีรชน รูปทหารในชุดนักบินยืนอยู่บนใบพัดเครื่องบินถือธงหันหน้าออกทะเล และยังมี อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 53 โดยจะเห็นแท่งหินขนาดใหญ่แกะสลักจำลองฉากการต่อสู้ระหว่างกองทัพไทยกับ ญี่ปุ่น บริเวณอ่าวมะนาว

18 สถานที่ มหศัจรรย์จากธรรมชาติ

1. เดอะเวฟ (The Wave) ที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา
"เดอะเวฟ" คือ ภูเขาหินทรายที่ฟอร์มตัวในลักษณะคล้ายคลื่นลาดชัน เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 190 ล้านปีก่อนหรือในยุคจูราสสิก เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีความเปราะบางมาก ทางการจึงจำกัดให้เข้าชมได้เพียงวันละไม่เกิน 20 คน และต้องเดินเท้าเข้าไปเกือบ 5 ก.ม. จึงจะถึงดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้


2. Tessellated Pavement บนเกาะแทสเมเนีย (รัฐหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย)
นี่คือภาพลานหินตะกอนบริเวณชายฝั่งที่ Eaglehawk Neck บนเกาะแทสมาเนีย ซึ่งถ้าหากมองเผินๆ จะแลดูคล้ายมีใครนำแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มาวางเรียงรายริมทะเล (บริเวณ ขอบสี่เหลี่ยมที่เราเห็นเป็นแนวเส้นตรงนั้น เกิดจากแรงตึงเครียดของผิวโลก ผนวกกับการกัดเซาะอย่างต่อเนื่องของคลื่นและแรงเสียดสีของทราย)


3. หินรูปทรงประหลาด ในทะเลทรายขาว (White Desert) ประเทศอียิปต์
ทะเลทรายแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Farafra Oasis มีลักษณะเป็นสีขาวและครีม ประกอบด้วยกลุ่มหินชอล์ครูปทรงประหลาดขนาดใหญ่มากมาย อันเป็นผลงานของพายุทรายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว


4. บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด (Blood Pond Hot Spring) ที่เบปปุ ประเทศญี่ปุ่น
น้ำพุร้อนสีเลือด (Chinoike Jigoku) เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชูสาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง


5. Giant's Causeway ที่ไอร์แลนด์เหนือGiant's Causeway เป็นชายฝั่งที่เกิดจากการเย็นตัวของหินภูเขาไฟเมื่อประมาณ 50,000 ถึง 60,000 ปีที่ผ่านมาก่อให้เกิดหินรูปหกเหลี่ยมและหินแท่งสี่เหลี่ยมกว่า 40,000 แท่ง องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน Giant´s Causeway เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529)


6. ทะเลเกลือ (salt flats) ที่ Salar de Uyuni ประเทศโบลิเวีย
จริงๆ แล้วที่ราบเกลือหรือทะเลเกลือลักษณะนี้มีอยู่หลายแห่งด้วยกันแต่ทะเลเกลือที่ Salar de Uyuni ของประเทศโบลิเวียนั้น มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร


7. อุทยานป่าหิน ในมณฑลยูนนาน
ตั้งอยู่บริเวณทางตอนใต้ห่างจากเมืองคุนหมิง ได้ราว ๆ 90 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในอำเภอสือหลินภายในพื้นที่ 350 ตารางกิโลเมตรที่มีภูเขาสูงๆต่ำๆทอดตัวยาวเหยียดออกไปแห่งนี้ มียอดหินและเสาหินใหญ่น้อยตั้งเรียงรายกระจัดกระจายอยู่ตามเนินเขา ป่าหินแห่งนี้จัดว่าเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือมีพื้นที่เฉพาะ ส่วนที่เยี่ยมชมราว 12 ตารางกิโลเมตร ภายในป่าหินมีทางแยกมากกว่า 400 สาย มีจุดท่องเที่ยวกว่า 200 จุด จึงได้สมญานามว่า วังวนใต้ทะเล " หินลักษณะสวยงามแปลกตาเหล่านี้ล้วนเป็นหินปูนที่แต่เดิมอยู่ใต้ผิวน้ำและ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวโลกหินเหล่านี้จึงถูกดันให้โผล่ขึ้นเหนือผิว น้ำกลายเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามโดดเด่นป่าหินแห่งนี้ประมาณกันว่า มีอายุราว 270 ล้านปี ป่าหินแห่งนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆคือป่าหินน้อย (Minor stone forest) และป่าหินใหญ่ (Major stone forest) และอีกส่วนหนึ่งที่มีความงดงามไม่แพ้กันคือ ส่วนของป่าหินนอก(Outer stone forest) ซึ่งอยู่บริเวณรอบนอกของป่าหินน้อยและป่าหินใหญ่ ป่าหินแห่งนี้มีหินรูปทรงแปลกตาที่สวยงามอยู่มากมาย ป่าหินคุนหมิงนับเป็นพิพิธภัณฑ์ของป่าหินทั่วโลก ซึ่งมีคุณค่ามาก


8. ธารน้ำแข็ง Taylor ใน McMurdo Dry Valleys ที่แอนตาร์คติกา (ขั้วโลกใต้)
ธารน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นสีแดงส้ม ตัดกับน้ำแข็งส่วนอื่นๆ ซึ่งมีสีขาวโพลน เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นเต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็ก (iron oxide) ซึ่งก็คือ "สนิม" นั่นเอง ด้วยเหตุนี้บริเวณดังกล่าวจึงได้รับการขนานนามตามลักษณะทางกายภาพว่า "น้ำตกเลือด" (Blood Falls)


9. ทะเลสาบสปอท เลค (Spotted Lake) – ประเทศแคนาดา“สปอ ท เลค” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ อาทิ แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก แต่น่าเสียดายที่ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ในที่ดินของเอกชน นักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่มองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่านั้น (ส่วนที่เป็นจุดๆ คือน้ำ นอกนั้นเป็นส่วนของแร่ธาตุนานาชนิด ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้)


10. ทะเลทรายแบล็คร็อค (Black Rock Desert) ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
ทะเล ทรายแบล็คร็อค คือ ก้นทะเลสาบที่แห้งสนิท ครั้งหนึ่งดินแดนแถบนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีชื่อว่า "Lahontan" ซึ่งปรากฏอยู่ในสมัย 18,000-7,000 พันปีก่อนคริสตกาล ในช่วงที่ทะเลสาบโบราณแห่งนี้มีระดับน้ำสูงสุด (เมื่อประมาณ 12,700 ปีก่อน) ทะเลทรายแบล็คร็อคเคยอยู่ใต้น้ำที่มีความลึกถึง 150 เมตรเลยทีเดียว


11. ถ้ำคริสตัล (Crystal Cave) ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ถ้ำคริสตัล เป็น 1 ใน 240 ถ้ำ (ที่ถูกค้นพบ) ภายในอุทยานแห่งชาติ Sequoia ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ถ้ำดังกล่าวเป็นถ้ำ "หินอ่อน" ธรรมชาติ ที่ภายในมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 9 องศาเซลเซียส ซึ่งการจะเข้าไปชมภายในถ้ำต้องอาศัยไกด์ทัวร์เป็นผู้นำทางเท่านั้น


12. ทุ่งหินรูปรังผึ้ง Bungle Bungles ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย
ทุ่หินทรายที่มีรูปทรงคล้ายรังผึ้ง หรือ Bungle Bungles นี้ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Purnululu ที่องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) กลุ่มหินดังกล่าวประกอบด้วยหินทรายและหินกรวดมน ซึ่งเมื่อประมาณ 375-350 ล้านปีก่อนหินเหล่านี้เคยเป็นตะกอนในลุ่มน้ำ "Ord"


13. ภูเขาไฟ Redoubt ที่รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา
Redoubt เป็นภูเขาไฟมีพลัง (active volcano) อายุนับพันๆ ปี ที่ยังคงคุกรุ่นและเกิดการปะทุหรือระเบิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา


14. เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)เป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประราณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้รว่มด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป้นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย และยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและ วัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกีในปี ค.ศ. 1985


15. นครใต้ดินไคมัคลึ (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli)เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู โดยชั้นล่างที่ลึกที่สุด ลึกถึง 85 เมตรทีเดียว เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทเย็นสบาย หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น


16. ทะเลสาปเดือด Boiling Lake ประเทศโดมินิกา (Commonwealth of Dominica)
“Boiling Lake” เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์) มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาปอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส ระดับน้ำภายในทะเลสาปแห่งนี้มีลักษณะขึ้น-ลงตลอดเวลา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) น้ำในทะเลสาปแห่งนี้ได้แห้งเหือดหายไป และเพิ่งกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา


17. แม่น้ำสีแดง (Rio Tinto) ที่ประเทศสเปน
บริเวณ พื้นที่ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำ Río Tinto มีการทำเหมืองทองแดง เงิน ทอง และแร่ธาตุอื่นๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ (ราว 5 พันปีก่อน) ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำดังกล่าวมีค่าความเป็นกรดสูงมาก ส่วนสาเหตุที่น้ำมีสีแดงก็เนื่องมาจากก้อนหินที่อยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ประกอบ ด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเข้มข้นนั่นเองเหมืองในแถบนี้ถูกปิดมานานนับ 10 ปี แต่เนื่องจากทองแดงมีราคาสูงขึ้น เจ้าของเหมืองจึงมีแผนเปิดเหมืองทองแดงอีกครั้งในปีหน้า


18. หุบเขาโลกพระจันทร์ (Vale de Lua) ที่ประเทศบราซิล
หุบ เขาโลกพระจันทร์ หรือ "the valley of the moon" เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี โดยพื้นที่ว่างระหว่างก้อนหินจะมีน้ำจากแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ดินแดนประหลาดแถบนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ที่ผ่านมา

เกาะตาชัย จ.พังงา

เกาะตาชัย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอยู่ไม่ไกลจาก หมู่เกาะสุรินทร์ มากนัก และถูกพบครั้งแรกโดยชายที่ชื่อ ตาชัย ทำให้ตั้งชื่อเกาะตามคนค้นพบว่า เกาะตาชัย
















เกาะตาชัย ถูกสำรวจพบมานานแล้ว แต่เพิ่งจะขึ้นตรงกับ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปยลโฉมความงามได้ไม่นาน ทำให้ตอนนี้บน เกาะตาชัย ยังไม่มีบ้านพักไว้คอยบริการ แต่ทางอุทยานฯ อนุญาตให้กางเต้นท์พักค้างคืนได้ มีห้องน้ำแยกชายหญิงเป็นสัดส่วน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งช่วงเวลาที่ เกาะตาชัย งดงามที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน จากนั้น เกาะตาชัย จะปิด 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟู















สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ เกาะตาชัย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไปชื่นชม คือ ชายหาดทรายขาวเม็ดละเอียด เนื้อนุ่ม ที่มีความยาวทอดตัวขนานไปกับผืนน้ำประมาณ 700 เมตร และการเดินป่าเข้าไปดู ปูไก่ ปูน้ำจืดที่ชอบอาศัยอยู่ตามธารน้ำ มีลำตัวสีแดงสด มีก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ ชอบออกหากินในช่วงกลางคืน รวมถึงเป็นจุดดำน้ำดูปะการังที่ทอดตัวยาวขนานกับชายหาด ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่ไม่อยากค้างคืน สามารถซื้อแพ็คเกจแบบเช้าไปเย็นกลับ (One Day Trip) ได้ที่ ท่าเรือคุระบุรี อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา และที่ ท่าเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา